ชื่อสินค้า เลือกสถานที่ตั้งร้านค้าปลีกและวางผังร้านค้าปลีก

เลือกสถานที่ตั้งร้านค้าปลีกและวางผังร้านค้าปลีก
การเลือกทำเลที่ตั้ง Store Location หมายถึงการพิจารณาคัดเลือกสถานที่ให้เหมาะกับการดำเนินธุรกิจการค้าปลีกแต่ละประเภท
ปัจจัยที่ใช้ประกอบการเลือกทำเลที่ตั้งร้านค้า
1.เลือกทำเลย่านการค้าในเมืองหรือย่านชุมชน ชานเมือง
2.ควรตั้งร้านโดดเดี่ยวอยู่เพียงร้านค้าเดียวกัน ริมทางหลวงสายสำคัญ ๆ หรือตั้งรวม ๆ กับร้านค้าปลีกประเภทเดียวกันในย่านเดียวกัน
นอกจากนี้ต้องพิจารณาความหนาแน่นของประชากรในชุมชน อำนาจซื้อของคนในชุมชน การแข่งขันร้านค้าประเภทเดียวกัน สิ่งอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า และกฎข้อบังคับของรัฐบาล
การวิเคราะห์ทำเลที่ตั้ง Location Analysis
การเลือกทำเลที่ตั้งจึงต้องวิเคราะห์ปัจจัยประกอบดังนี้
1.ประชากรศาสตร์ ความหนาแน่นของประชากร
2.ปัจจัยทางเศรษฐกิจ เช่นรายได้ของประชากร อำนาจซื้อ
3.ฐานะความเป็นอยู่ หมายถึงมาตรฐานการครองชีพของประชากรฐานะความเป็นอยู่ดี
4.อำนาจซื้อของประชากร ในอาณาบริเวณนั้นเป็นผู้มีงานทำ มีรายได้เป็นส่วนมากทั้งหญิงชาย อาจเป็นย่านที่มีโรงงานอุตสาหกรรมมากจะมีอำนาจซื้อมาก
5.พฤติกรรมการซื้อ ผู้บริโภคอยู่ในเมืองจะมีความต้องการซื้อสินค้ามาก
6.โครงสร้างพื้นฐานที่อำนวยความสะดวกสำหรับความเป็นอยู่ของประชากรในพื้นที่นั้น ๆมีความเจริญของเมืองว่ามีมากน้อยเพียงใด
7.คู่แข่งขันได้แก่ระดับความเข้มขันในการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกประเภทเดียวกันหรือคล้ายกันในบริเวณนั้น
การวิเคราะห์ย่านการค้าปลีก Trade Analysis หมายถึงการวิเคราะห็พื้นที่ที่ลูกค้าของร้านค้าปลีกนั้นอาศัยอยู่หรือทำงานอยู่
การวิเคราะห์เลือกที่ตั้งของร้านค้าปลีกกำหนดไว้ 7 ทฤษฎี
1.ทฤษฎี Hutt s Model ใช้คำนวณระยะทางและเวลาที่ลูกค้าเดินทางมาช็อปปิ้ง
2.การวิเคราะห์ผู้ใช้บริการจากระยะทางในรัศมีรอบ ๆ กิจการค้าปลีก Concentri Zone
คือการใช้แผนที่กำหนดให้ศูนย์การค้าของเราเป็นศูนย์กลาง
3.การวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยีภูมิประชากรศาสตร์เป็นโปรแกรมการจัดทำแผนที่โดยละเอียดของพื้นที่ต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์แบบใหม่
4.การคาดคะเนความเป็นไปได้ของตลาดคือการประมาณการยอดขายรวมของตลาดค้าปลีกทั้งตลาดในแต่ละพื้นที่
5.การประเมินความเป็นไปได้ของยอดขาย จะมีผลในการตัดสินใจวางแผนการดำเนินงาน
6.ดัชนีความอิ่มตัวของธุรกิจค้าปลีก ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ หรือต้องเลิกกิจการ
7.การออกไปจับจ่ายนอกพื้นที่ มักจะเป็นการซื้อสินค้าหรือบริการพิเศษเฉพาะอย่าง ซึ่งผู้ซื้อเชื่อว่าต้องไปซื้อจากแหล่งที่ดีที่สุดหรือจากร้านที่เชื่อถือได้ เช่นการซื้อเครื่องเสียง ผู้ซื้อจะเข้าไปซื้อในเมืองเพื่อซื้อจากโชว์รูมของบริษัทโดยตรง
ประเภทของทำเลที่ตั้งกิจการค้าปลีก Store Location
1ศูนย์การค้า Shopping Center หมายถึงร้านค้าปลีกหลายประเภท หลายร้านค้าอยู่ร่วมกันในอาคารเดียวกัน
ประเภทศูนย์การค้าแบ่งออกคือ
1.ศูนย์การค้าใกล้บ้านเป็นศูนย์การค้าขนาดเล็กประเภทซุปเปอร์มาร์เก็ต
2.ศูนย์การค้าย่านชุมชนเป็นศูนย์การค้าที่มีแหล่งที่อยู่อาศัยใกล้ ๆ เป็นจำนวนมากระหว่าง15-30 หมู่บ้าน
3.ศูนย์การค้าระดับภูมิภาคเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่บริการแบบครบวงจร
4.ศูนย์การค้าระดับซุปเปอร์ภูมิภาคมีลักษณะคล้ายการค้าภูมิภาคแต่มีขนาดใหญ่กว่า
5.ศูนย์รวมแฟชั่นสินค้าพิเศษจะประกอบด้วยศูนย์รวมร้านเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ตั้งแต่ร้านบูติก ร้านขายสินค้าแฟชั่น
6.ศูนย์การขายสินค้าราคาถูก Power center ศูนย์การค้าประเภทนี้จะรวมห้างขายสินค้าราคาถูก ขายสินค้าลดราคา
7 ศูนย์การค้าที่จัดตกแต่งตามวัฒนธรรมเป็นศูนย์การค้าที่เสนอรูปแบบการขาย การออกแบบตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตนเอง
8 ศูนย์สินค้าของโรงงานผู้ผลิตเป็นร้านขายปลีกของโรงงานผู้ผลิตสินค้าตรายี่ห้อดัง
2 เขตใจกลางธุรกิจ Central Business Districts (CBD) เป็นย่านจับจ่ายซื้อสินค้าในเขตของกลางเมือง ในย่านธุรกิจ หรือในเขตอื่น ๆ ของเมืองที่มีธุรกิจหนาแน่น ที่เรียกว่า CBD
ย่านCBD ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยคือ
-ศูนย์การค้าเวิล์คเทรดเซ็นเตอร์
-ศูนย์การค้าสยามดิสคอฟเวอรี่
-ศูนย์การสยามพารากอน
3ทำเลที่ตั้งร้านโดด ๆ Free Standing Locations เป็นร้านค้าปลีกที่ตั้งอยู่ข้างถนนโดยเอกเทศ คือย่านการค้าตามแนวถนนลักษณะเป็นย่านการค้าที่มีร้านค้าสองข้างถนนที่เชื่องไปสู่ตัวเมืองเช่นร้านค้าขายอาหาร ห้องโชว์รถยนต์
4กิจการค้าปลีกแบบไดร์ฟอิน Drive in Locations เป็นศูนย์การค้าที่ให้ลูกค้าขับรถเข้าไปซื้อสินค้า โดยลูกค้านั่งรออยู่ในรถได้เลยเช่นร้านแมคโดแนลด์ในอเมริกา
5.กลุ่มที่อยู่อาศัยหนาแน่น Clusters ได้แก่บริเวณที่มีแฟลตและอพาร์ทเมนท์อยู่เรียงรายเป็นกลุ่ม ๆ
การวางแผนการออกแบบตกแต่งและวางผังกิจการค้าปลีก Location Analysis จะต้องคำนึงการออกแบบตกแต่งทั้งภายนอก และภายใน
การออกแบบตกแต่งภายนอก ต้องเข้ากับสถาปัตยกรรมของกิจการ รูปลักษณ์ภายนอกของร้านค้าปลีก เป็นเสมือนประตูด่านแรกของกิจการที่ลูกค้ามองเห็นเป็นจุดดึงดูดให้ลูกค้าตัดสินใจเข้ามาในร้าน
การออกแบบตกแต่งภายใน Interior Design การออกแบบผังและบริหารพื้นที่ให้เกิดคุณค่า การจัดทางเดิน ประเภทของสินค้า การจัดวางสินค้าให้เหมาะสมกับพื้นที่
-การสร้างบรรยากาศในร้าน คือการจัดสินค้าแรงกระตุ้นซื้อสูงไว้หน้าร้าน เช่นผลไม้สด
-เครื่องหมายและสัญลักษณ์Signs หมายถึงการใช้เคริ่องหมายหรือสัญลักษณ์ที่ใช้ให้เห็นถึงธรรมชาติของธุรกิจ
- ชื่อร้าน Store Name ป้ายชื่อร้านเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของร้านค้านั้น ๆ
การออกแบบวางผังเส้นทางการสัญจรของลูกค้าภายในร้านค้าปลีกมี 3 วิธีคือ
1.การจัดวางผังแบบรังผึ้ง Crid Pattetn เป็นการจัดผังร้านค้าปลีกให้มีเส้นทางหลัก เส้นทางรอง และเส้นทางที่ 3 การวางผังแบบนี้จะช่วยให้ได้ประโยชน์สูงสุดในการแบ่งเนื้อที่ การวางผังเป็นที่นิยมร้านขายสินค้าสะดวกซื้อ และซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป นำสินค้าที่ขายดีวางไว้ด้านในสุด สินค้าอุปโภคสินค้าบริโภคที่ใช้ในชีวิต -
ประจำวันวางกระจายตามชั้นวางของในมุมต่าง ๆ
2.การจัดผังแบบอิสระ Free Flow Pattern เป็นการจัดผังที่ให้ความยืดหยุ่นในการจัดวางตู้ เคาน์เตอร์ชั้นโชว์สินค้ามากกว่าการวางผังแบบรังผึ้ง วิธีจัดวางแบบข้ามมาของทางเดิน
3.การวางผังแบบบูติก Shop concept หรือ Boutique Pattern จัดวางผังร้านที่ดูเป็นธรรมชาติ เป็นการจัดวางผังสินค้าแบ่งสินค้าเป็นกลุ่ม หรือแผนก แต่จัดให้สินค้าแต่ละแผนกมีความเชื่อมโยมต่อเนื่องกัน เช่น
1.จัดวางชุดชั้นในสตรีไว้ก่อน
2.เครื่องประดับสตรี เช่น แหวนเพชร พลอย เครื่องประดับ
3.ชุดทำงาน เช่น เสื้อผ้า
4.กระเป๋า เข็มขัด
5.รองเท้า
6.เครื่องสำอาง ของใช้อื่น ๆ
ตู้โชว์น้ำหอมไว้กลางห้อง
การวางผังตามประเภทของสินค้า Types of Goods
แบ่งออกเป็น 4 ประเภท
1.สินค้าประเภทกระตุ้นซื้อ Impulse Goods เป็นสินค้าไม่ได้มีการวางแผนการซื้อไว้ล่วงหน้ามาก่อน เช่น ลูกอม มีดโกนหนวด ควรจัดวางอยู่ใกล้เคาน์เตอร์
2.สินค้าสะดวกซื้อ Convenience Goods สินค้าใช้เป็นประจำเช่นหนังสือพิมพ์ สบู่ ยาสีฟัน ควรจัดวางไว้ในที่มีลูกค้าผ่านไปมามาก
3.สินค้าเลือกซื้อ Shopping Good เป็นสินค้าที่ลูกค้าตั้งใจเลือกซื้อ เช่น โทรทัศน์สี Sony ควรวางไว้ด้านในสุด ของร้าน
4.สินค้าพิเศษ Specialty Good เป็นสินค้ามีความต้องการก่อนที่จะมาหาซื้อ ควรวางที่จุดใดก็ได้
วิธีจัดวางผังสินค้า 2 แบบคือ
1.แบ่งตามประเภทของสินค้า เช่น น้ำปลา ซอส มัสตาส เกลือ น้ำตาล เนย แยม
2.แบ่งตามประเภทของลูกค้า เช่น แผนกเสื้อผ้าผู้ชาย แผนกเสื้อผ้าผู้หญิง
องค์ประกอบของการออกแบบตกแต่งภายใน
-วัสดุตกแต่งชนิดติดตั้ง Store Fixtures เป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญในการออกแบบตกแต่งร้าน ได้แก่ การออกแบบติดตั้งส่วนที่ใช้จัดแสดงสินค้า ตู้โชว์สินค้า เหมาะกับสินค้ อัญมณี ทองคำ
-การจัดแสดงสินค้า Displays มีสีเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจ เช่นสีแดงใช้ในเทศกาลวาเลนไทน์ สีขาวนวล เหมาะกับร้านอาหาร ร้านขายเสื้อผ้า แสงสว่าง เช่นร้านขายเพชรใช้แสงสปอร์ไลท์ส่องไปที่สินค้า เพดานมีระดับเพดานสูงเพียง 9-10 ฟุต
*********************************************************************************
